กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ประชุมคณะอนุกรรมการติดตามผลโครงการ ครั้งที่ 10/2568
พลเอก ดร.สุภมนัส ภารพบ ประธานอนุกรรมการติดตามผลการดำเนินโครงการของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามผลการดำเนินโครงการของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 10/2568 ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 4 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และผ่านระบบการประชุมทางไกล (Video Conference) แอปพลิเคชัน Zoom Cloud Meetings โดยมี นางภัทรพร วรทรัพย์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบการเงินการคลัง ผู้แทนกรมบัญชีกลาง ,นายปัญญา หาญลำยวง อนุกรรมการ,นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ พร้อมด้วยฝ่ายสำนักที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม
การประชุมครั้งนี้มีวาระสำคัญ ได้แก่
การพิจารณา ขออนุมัติผูกพันงบประมาณโครงการที่มีบันทึกข้อตกลง หรือสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568
ที่ประชุมมีมติ “รับทราบและเห็นชอบตามที่หน่วยงานต่าง ๆ เสนอ โดยในที่ประชุมเสนอให้ดำเนินการก่อน 30 พฤศจิกายน 2568 เพื่อให้ฝ่ายคลังกองทุนมีเวลาตรวจสอบและเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จ ก่อน 31 ธันวาคม 2568 ให้เป็นไปตามมติของคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ และให้ทุกฝ่ายร่วมมือในการเร่งรัดการเบิกจ่ายและปรับปรุงกระบวนการให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของทางราชการ หลังจากนี้กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติจะดำเนินการ สรุปผลการดำเนินงานเพื่อเสนอผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย พิจารณาลงนาม และส่งต่อให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ต่อไป
ที่ประชุมยังได้พิจารณาวาระเกี่ยวกับ การแต่งตั้งที่ปรึกษา อนุกรรมการ และคณะทำงานของคณะอนุกรรมการติดตามผลการดำเนินโครงการของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ โดยมีเห็นชอบแต่งตั้ง
ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย และนายทนุเกียรติ จันทร์ชุม ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เป็นที่ปรึกษาคณะอนุกรรมการฯ
และมีมติเห็นชอบเสนอแต่งตั้ง พลอากาศเอก วรชาติ ฟองชล ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นอนุกรรมการแทน นายสมหมาย ลักขณานุรักษ์ ที่ได้ลาออกจากตำแหน่ง ทั้งนี้ จะเสนอรายชื่อให้คณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติพิจารณาให้ความเห็นชอบในการประชุมครั้งถัดไป
สุดท้าย ในที่ประชุมได้หารือแนวทาง แผนการดําเนินงานกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ
ประจําปี งบประมาณ พ.ศ. 2569
โดยนายทนุเกียรติ จันทร์ชุม ผู้จัดการกองทุนฯ เผยว่า “งบประมาณประจำปี พ.ศ.2569 สามารถดำเนินการได้แล้ว โดยเสนอขั้นตอนดังต่อไปนี้
ข้อเสนอแนะในการดำเนินงาน
– ด้านงบประมาณและการบริหารเงินสด ควรให้ความระมัดระวังในการบริหารเงินสดและรายรับที่อาจมีความไม่แน่นอน เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อการบริหารงบประมาณในภาพรวม จึงจำเป็นต้องเตรียมการรองรับความเสี่ยง และปรับแผนการใช้จ่ายให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เพื่อให้สามารถบริหารงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
-การติดตามและเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ
ถือเป็นเรื่องที่ดีที่ท่านประธานได้ลงพื้นที่ติดตามและเร่งรัดการเบิกจ่าย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาระบบบริหารจัดการและรายงานผลในอนาคต โดยแต่ละฝ่ายควรสามารถทราบสถานะการดำเนินงานได้อย่างชัดเจนและเป็นปัจจุบัน เช่น ยอดเบิกจ่าย จำนวนบันทึกข้อตกลงที่ดำเนินการแล้ว และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ ควรกำหนดระยะเวลาในการรายงานผลที่ชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้าเกินกว่า 30 วัน หรือมีการขยายระยะเวลาโดยไม่มีเหตุอันสมควร
-การปรับแผนงานโครงการบ่อยครั้ง
ปัจจุบันพบว่ามีการปรับแผนงานหรือโครงการในบางส่วนบ่อยครั้ง ซึ่งบางรายการมีการปรับถึงกว่า 20 ครั้ง ส่งผลให้เกิดภาระงานเพิ่มเติมและความซ้ำซ้อนในการดำเนินงาน จึงควรกำหนดหลักเกณฑ์ แนวทาง และขั้นตอนการปรับแผนให้มีความเหมาะสม เพื่อลดภาระงานที่ไม่จำเป็นและเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการโครงการ“
ด้าน นางภัทรพร วรทรัพย์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบการเงินการคลัง ผู้แทนกรมบัญชีกลาง เผยว่า” ข้อสังเกตและข้อเสนอแนะจากสำนักงานบัญชีกลาง สำนักงานบัญชีกลางมิได้มีเจตนาทักท้วงหรือให้ข้อสังเกตด้วยเหตุผลอื่นใด นอกจากต้องการให้การดำเนินงานของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติมีความเรียบร้อย โปร่งใส และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ เนื่องจากข้อมูลต่าง ๆ ของกองทุนฯ จะถูกนำไปใช้ในการจัดทำรายงานต่อคณะรัฐมนตรี สภาผู้แทนราษฎร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงขอให้กองทุนฯ พิจารณาแนวทางดังต่อไปนี้
– การจัดทำข้อมูลและระบบติดตามผล
ควรจัดทำข้อมูลให้มีรูปแบบและมาตรฐานเดียวกัน เพื่อให้ผู้บริหารระดับสูงสามารถติดตามความก้าวหน้าได้อย่างเป็นระบบ และสะดวกต่อการบันทึกข้อมูลลงในระบบ NBMS (National Budget Management System) ซึ่งเป็นระบบที่หน่วยงานของรัฐใช้ตรวจสอบและติดตามสถานะการเบิกจ่ายงบประมาณแบบเรียลไทม์ ทั้งนี้ หากหน่วยงานใดมีความล่าช้า ระบบจะสามารถแสดงให้เห็นได้ทันที จึงควรให้ความสำคัญกับความถูกต้องและความครบถ้วนของข้อมูล
– ผลการเบิกจ่ายงบประมาณ
จากข้อมูลในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 พบว่า อัตราการเบิกจ่ายของกองทุนฯ อยู่ที่ประมาณ 74.5% ซึ่งถือว่ายังไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่กระทรวงการคลังและรัฐบาลกำหนดไว้ หากไม่สามารถเบิกจ่ายได้ตามแผนจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมและการจัดสรรงบประมาณในปีถัดไป จึงขอเน้นย้ำให้วางแผนการเบิกจ่ายให้สอดคล้องกับระยะเวลา โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสแรกและไตรมาสที่สอง เพื่อให้สามารถใช้จ่ายงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุตามเป้าหมาย
-การส่งและปรับแผนการดำเนินงาน
ขอให้กองทุนฯ ยึดถือแผนที่ได้จัดทำและอนุมัติไว้เป็นหลัก ไม่ควรมีการปรับแผนหรือเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้ง เนื่องจากจะส่งผลให้เกิดความล่าช้าในการดำเนินงาน และอาจกระทบต่อการเบิกจ่ายในภาพรวม ทั้งนี้ หากจำเป็นต้องปรับแผน ควรจัดทำเหตุผลประกอบอย่างชัดเจน และรายงานให้ผู้บริหารทราบเป็นลำดับ สำนักงานบัญชีกลางขอเรียนว่า ข้อสังเกตทั้งหมดนี้เป็นไปด้วยความห่วงใย และหวังให้การดำเนินงานของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และสามารถเป็นแบบอย่างที่ดีแก่หน่วยงานของรัฐอื่น ๆ ต่อไป“
สุดท้าย พลเอก ดร.สุภมนัส ภารพบ กล่าวสรุปว่า “ในการประชุมเรื่องการกำกับและเบิกจ่ายงบประมาณของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ในวันนี้ ได้เชิญผู้แทนกรมบัญชีกลาง เข้าร่วมรับฟัง เพื่อพิจารณาการดำเนินงานร่วมกันระหว่างกองทุนและฝ่ายอนุกรรมการ พบว่างานสามารถดำเนินไปได้อย่างเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากฝ่ายต่าง ๆ ทั้ง 11 ฝ่าย โดยมีปัญหาเล็กน้อย ซึ่งแต่ละฝ่ายจะดำเนินการปรับปรุงแก้ไขและส่งให้กองทุนโดยด่วน จากนั้นให้กองทุนสรุปเพื่อนำเรียนผู้ว่าการให้ลงนาม และนำส่งต่อรัฐมนตรีตามหน้าที่ที่กำหนด จากการประชุม ขอสรุปว่าการดำเนินงานเป็นไปตามที่ทุกฝ่ายได้ดำเนินการ มีความร่วมมือและสนับสนุนจากทุกฝ่ายเป็นอย่างดี ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความร่วมมือและดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ“
ติดตามข่าวสารกองทุนได้ทุกช่องทาง
Facebook : https://www.facebook.com/nsdf.or.th
Website : https://nsdf.or.th/
YouTube : https://www.youtube.com/@nsdf2483
Instagram : https://www.instagram.com/nsdfthailand/
X(Twitter) : https://x.com/NSDF_Thailand
TikTok : https://www.tiktok.com/@nsdfthailand