กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ขอชี้แจงกรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับเบี้ยเลี้ยงนักกีฬาทีมชาติไทย ซึ่งเข้าร่วมการเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพในช่วงปลายปี 2568 โดยข้อความดังกล่าวระบุว่า “ปัญหาเรื่องเบี้ยเลี้ยงเก็บตัวและค่าผู้ฝึกสอนค้างตั้งแต่เดือนมีนาคม ทั้งๆ ที่เหลือเวลาอีก 3 เดือนเศษ เป็นเงินกว่า 40 ล้านบาท หลังผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องรับปากจะแก้ไข แต่ผ่านมา 2 สัปดาห์ยังไม่มีความคืบหน้า และอีกประเด็นคือการนำ ระบบสารสนเทศ เข้ามาช่วยให้ขั้นตอนการขอ การลงนาม และการเบิกจ่ายงบประมาณทั้งหมด สมาคมกีฬาฯแย้งขึ้นมาว่าอาจขัดต่อกฎหมาย”
นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เปิดเผยว่า “ท่านสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีความห่วงใยในประเด็นดังกล่าวอย่างมาก จึงได้กำหนดให้มีการประชุมเพื่อ ติดตาม แก้ไขปัญหา และซักซ้อมความเข้าใจ เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยประชุมร่วมกับทุกฝ่าย ที่มีท่านกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ,นายต้น ณ ระนอง คณะที่ปรึกษาของรัฐมนตรี ฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศ การกีฬาแห่งประเทศไทย และ ฯ ผู้แทนสมาคมกีฬา เข้าร่วม”
“ในการประชุม มีผู้แทนสมาคมกีฬาบางสมาคมสอบถามถึงแนวทางปฏิบัติในการจัดทำบันทึกข้อตกลง ว่ามีการกำหนดไว้ในระเบียบข้อใด และดำเนินการอย่างไร ซึ่งขอชี้แจงว่า การดำเนินการดังกล่าว มิใช่แนวทางใหม่ แต่เป็นการยึดตามแนวปฏิบัติที่ใช้มาโดยตลอด ตามระเบียบว่าด้วยการรับเงิน การจ่ายเงิน และการเก็บรักษาเงิน ข้อที่ 28 ตามระเบียบคณะกรรมการกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ.2559″
”สำหรับการเตรียมการเบิกจ่ายงบประมาณจำนวน 310,980,975.63 บาท นั้น ขณะนี้กองทุนฯ ได้มีหนังสือด่วนถึงกรมบัญชีกลาง เพื่อขอกรอบงบประมาณเพิ่มเติม และต้องรอความเห็นชอบจากรมบัญชีกลาง
ซึ่งเป็นไปตามระเบียบวินัยการคลังที่จะต้องขอความเห็นชอบเพิ่มเติมจากกรมบัญชีกลาง ขณะเดียวได้ซักซ้อม
ความเข้าใจในเรื่องของความรับผิดชอบของแต่ละส่วน เพื่อให้การเบิกจ่ายจะได้ไม่ต้องล่าช้า ดังนี้
1.สำนักงานกองทุนฯ เตรียมบันทึกข้อตกลงตามระเบียบไว้สามารถลงนามผ่านระบบได้ทันที เมื่อได้รับความเห็นชอบจากกรมบัญชีกลางโดยทันที
2.สมาคมกีฬา เตรียมลงนามบันทึกข้อตกลงจากสำนักงานกองทุนฯ และเตรียมเอกสารประกอบการเบิกจ่าย ตามที่ระเบียบกำหนด ส่งต่อให้ ฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศ
3.ฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศ เตรียมการรวบรวม ตรวจสอบเอกสารให้มีความถูกต้อง ครบถ้วน สมบูรณ์
และนำส่งฝ่ายการคลังกองทุนฯ โดยเร็ว
4.ฝ่ายการคลังกองทุน ได้มอบหมายเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ เมื่อได้รับเอกสารที่ถูกต้อง ครบถ้วน สมบูรณ์ จะสามารถดำเนินการเบิกจ่ายได้ภายใน 3 วันทำการ
“นี่เป็นกระบวนการที่ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบทุกฝ่ายได้เตรียมการและดำเนินงานเคร่งครัด มิได้นิ่งนอนใจ แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม เนื่องจากงบประมาณดังกล่าวเป็น งบประมาณของทางภาครัฐ เราจึงมีความจำเป็นต้องปฏิบัติตามระเบียบอย่างเคร่งครัด รอบคอบ เพื่อมืให้เกิดกรณีศึกษาในอดีตมากมาย ที่พบว่าเมื่อไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบ ถึงแม้จะมีเจตนาดี ก็อาจนำไปสู่ความผิดทางกฎหมาย มีโทษร้ายแรงถึงขั้นจำคุก ดังนั้นการกีฬาแห่งประเทศไทย และ สำนักงานกองทุนฯ จึงให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง”
“สำหรับข้อกังวลเกี่ยวกับการใช้ ระบบสารสนเทศ มาใช้บริการกับผู้ขอทุน อาจผิดกฎหมายนั้น ขอชี้แจงว่า การพัฒนาระบบสารสนเทศดังกล่าว ยังคงเป็นระบบเดิม แต่ได้มีการปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น เชื่อมโยงกับการเบิกจ่ายงบประมาณทั้งหมด เพื่อความสะดวกและรวดเร็วสำหรับผู้ขอใช้บริการ เป็นไปตามหนังสือเวียนของกรมบัญชีกลางที่ กค 0406.2/ว 380 ลงวันที่ 5 มิถุนายน 2568 ว่าด้วยเรื่อง ดำเนินการบันทึกแบบคำขอแผนการดำเนินงานประจำปีหมุนเวียนผ่านระบบ (NBMS) ควบคู่ไปกับการปฏิบัติงานรูปแบบปัจจุบันในปีบัญชี 2569 และสำนักงานกองทุนฯ ได้ตรวจสอบในทุกมิติแล้ว ยืนยันว่าเป็นการดำเนินงาน ตามอำนาจหน้าที่ที่ระเบียบกำหนดไว้ โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ขอรับทุน ลดขั้นตอนการทำงาน และสร้างความเป็นธรรม โปร่งใส ในการจัดสรรงบประมาณ อีกทั้งในเรื่องดังกล่าวได้ทดลองใช้มาในระยะหนึ่งแล้ว และมีการสำรวจความพึงพอใจต่อผู้ใช้บริการ พบว่าผู้ใช้บริการมีความพึงพอใจเป็นอย่างยิ่งมากกว่า 90% และเห็นว่าควรนำระบบมาใช้และพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นต่อไป ซึ่งทางสำนักงานกองทุนฯ ก็จะใช้ระบบดังกล่าวเต็มรูปแบบ 100% ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป”
ติดตามข่าวสารกองทุนได้ทุกช่องทาง
Facebook : https://www.facebook.com/nsdf.or.th
Website : https://nsdf.or.th/
YouTube : https://www.youtube.com/@nsdf2483
Instagram : https://www.instagram.com/nsdfthailand/