ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ ครั้งที่ 8/2568 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ (Zoom Cloud Meeting) ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล
การประชุมครั้งนี้มี นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นางสาวนัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ เข้าร่วมประชุม
ที่ประชุมมีมติเห็นชอบและอนุมัติเรื่องสำคัญ ได้แก่
- อนุมัติเพิ่มกรอบวงเงินงบประมาณ คงเหลือจากปีงบประมาณ 2568 มาเพิ่มกรอบในปีงบประมาณ 2569 เพื่อใช้ในการเตรียมนักกีฬาระดับมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติ (เก็บตัวฝึกซ้อม) ระหว่างวันที่ 1 ส.ค.-30 ก.ย.2568 กับการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 กีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 และการให้บริการด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาของชาติ รวมเป็นเงิน 201,597,769 บาท
โดยทางสำนักงานกองทุนจะเร่งประสานงานกับกรมบัญชีกลาง เพื่อขอความเห็นชอบ ตามมติคณะกรรมการบริหารกองทุน เพื่อเร่งรัดการเบิกจ่ายให้เงินถึงมือนักกีฬาโดยเร็วที่สุด
- อนุมัติการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 (เก็บตัวฝึกซ้อม) 1 ต.ค.-6 ธ.ค.2568 ณ ราชอาณาจักรไทย จำนวน 172,557,542 บาท
- อนุมัติการแข่งขันกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 (เก็บตัวฝึกซ้อม) ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2568-16 มกราคม 2569 ณ ราชอาณาจักรไทย จำนวน 108,182,142 บาท
โดยทางคณะกรรมการบริหารกองทุน ให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องดำเนินการเร่งรัดเบิกจ่ายให้นักกีฬาโดยเร็วที่สุด
ที่ประชุมยังเห็นชอบและอนุมัติหลักการเบิกจ่ายเงินรางวัลแก่นักกีฬา ผู้ฝึกสอน และสมาคมกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขันมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 และอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 โดยกำหนดให้ดำเนินการเบิกจ่ายผ่านระบบ KTB Corporate Online ภายใน 7 วันหลังเสร็จสิ้นการแข่งขัน เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจแก่ทัพนักกีฬาไทย
นอกจากนี้ ที่ประชุมรับทราบการนำส่งคืนงบประมาณให้แก่กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติจำนวน 705,508,074.80 บาท เพื่อนำไปบริหารจัดการและสนับสนุนโครงการด้านกีฬาอื่น ๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบและอนุมัติโครงการที่สำคัญ
แผนงานที่ 1 : การส่งเสริมหรือการสนับสนุนตามนโยบายของรัฐบาล
•การแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก รายการโมโต จีพี ประจำปี 2569
•การแข่งขันวิ่งเทรลระดับนานาชาติ Chiang Mai Thailand by UTMB
•การแข่งขันวิ่งเทรลระดับนานาชาติ Amazean Jungle Thailand by UTMB
•การพัฒนาเยาวชน Youth Development (กีฬาฟุตซอล)
แผนงานที่ 2 : การส่งเสริมการเป็นเจ้าภาพการแข่งขันระดับนานาชาติ ระดับชาติ และกิจกรรมอื่น ๆ
- โครงการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันระดับนานาชาติ16รายการ
- โครงการจัดการแข่งขันชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย11รายการ
แผนงานที่ 4 : การกำกับดูแลกีฬามวยให้ปฏิบัติตามกฎหมาย
•การกำกับและควบคุมดูแลกีฬามวยไทยให้ปฏิบัติตามกฎหมาย
•การสนับสนุนการจัดการแข่งขันกีฬามวยไทยทั้งในและต่างประเทศ
แผนงานที่ 5 : การสร้างกระแสจากการแข่งขันกีฬา
•การประชาสัมพันธ์ด้านกีฬา
แผนงานที่ 7 : การสนับสนุนระบบพัฒนานักกีฬาสู่ความเป็นเลิศ
•การแข่งขันกีฬาเอเชียนยูธพาราเกมส์ ครั้งที่ 5 ณ สาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์
•การแข่งขันกีฬาเอเชียนยูธเกมส์ ครั้งที่ 3 ณ ราชอาณาจักรบาห์เรน
•การส่งนักกีฬาแข่งขัน (นักกีฬาคนปกติ)
•การส่งนักกีฬาแข่งขัน (นักกีฬาคนพิการ)
แผนงานที่ 8 : การสนับสนุนวิทยาศาสตร์การกีฬาและนวัตกรรม
•การให้บริการด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาของชาติ
•การดำเนินการด้านสารต้องห้ามทางการกีฬา
แผนงานที่ 12 : การพัฒนาบุคลากรกีฬาสู่ความเป็นเลิศ
•การพัฒนาบุคลากรของสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย
•โครงการพัฒนานักกีฬาและบุคลากรกีฬาอาชีพ
•การพัฒนาบุคลากรโดยการกีฬาแห่งประเทศไทย
•การพัฒนาบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา
ที่ประชุมยังเห็นชอบให้ ปรับเพิ่มจำนวนทุนการศึกษาของนักกีฬาและบุคลากรกีฬา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 จากเดิมจังหวัดละ 3 คน เป็น 5 คน เพื่อขยายโอกาสและสนับสนุนบุคลากรด้านกีฬา
ด้านร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานคณะกรรมการบริหารกองทุน ได้กล่าวสรุปว่า “ทุกโครงการที่นำเสนอเข้ามาในครั้งนี้ จะต้องมีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างภาพลักษณ์ของการกีฬาไทยในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการท่องเที่ยว แต่ต้องเป็นกลไกที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับชุมชน และส่งเสริมบทบาทของประเทศไทยในเวทีนานาชาติ ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินงานของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติเป็นไปตามพันธกิจ”
“ในส่วนของการเบิกจ่ายงบประมาณ ผมขอย้ำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดขั้นตอนการดำเนินงาน เพื่อให้เงินงบประมาณสามารถนำไปใช้ให้เกิดผลประโยชน์ต่อวงการกีฬาได้โดยทันที โดยเฉพาะโครงการสำคัญที่มุ่งเน้นการพัฒนานักกีฬา บุคลากรทางการกีฬา และการยกระดับมาตรฐานการแข่งขัน ขอให้มีการจัดสรรงบประมาณที่เหมาะสมและเพียงพอต่อความจำเป็น เพื่อให้ประเทศไทยสามารถพัฒนากีฬาได้อย่างต่อเนื่องและแข่งขันได้ในระดับสากล”
“อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ทุกขั้นตอนของการบริหารจัดการต้องดำเนินไปด้วยความโปร่งใส มีมาตรฐานเดียวกัน และสามารถตรวจสอบได้อย่างชัดเจน เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณของกองทุนเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ สร้างความเชื่อมั่นให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และนำไปสู่การวางรากฐานของระบบกีฬาไทยให้มีความมั่นคง และสอดคล้องกับทิศทางการพัฒนากีฬาในเวทีนานาชาติ”






























