กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (NSDF) เดินหน้าจัดประชุมสัมมนาผู้ขอรับการส่งเสริมและสนับสนุนจากงบประมาณกองทุนฯ ประจำปี 2568 ณ โรงแรมประจักษ์ตรา ดีไซน์ จังหวัดอุดรธานี ระหว่างวันที่ 26-28 มิถุนายน 2568 โดยมีผู้เข้าร่วมจาก 20 จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
งานนี้ได้รับเกียรติจาก นายวัชระพล ขาวขำ คณะกรรมาธิการกีฬาสภาผู้แทนราษฎร และส.ส.อุดรธานี เขต 3 กล่าวเปิดงาน พร้อมต้อนรับและแนะนำแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดในฐานะเจ้าบ้าน
ในส่วนของการต้อนรับผู้เข้าร่วมสัมมนา นายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้มอบหมายให้ นายณัฐพงศ์ คำวงศ์ปิน รองผู้ว่าราชการฯ กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมสัมมนาทุกท่านอย่างอบอุ่น พร้อมกล่าวถึงความพร้อมของจังหวัดในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 50 “อุดรธานีเกมส์” ระหว่าง 9-19 ธันวาคม 2569 และกีฬาคนพิการแห่งชาติ ครั้งที่ 40 “ภูพระบาทเกมส์” ในช่วง 20-26 มกราคม 2570 ซึ่งนับเป็นโอกาสสำคัญที่จังหวัดอุดรธานีรอคอยมากว่า 45 ปี สำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดอุดรธานี
กองทุนฯ มุ่งเน้นการทำงานที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพในปี 2569
การสัมมนาครั้งนี้เป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้ผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานได้แลกเปลี่ยนมุมมองกันอย่างกว้างขวาง
นำโดย นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ได้นำเสนอผลการดำเนินงานปี 2568 และแนวทางดำเนินงานปี 2569 ที่มุ่งเน้นการพัฒนาระบบคำขอให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ทุกคำขอได้รับการพิจารณา และทุกคำขอได้ถูกตรวจสอบด้วยมาตรฐานเดียวกัน มุ่งมั่นเพื่อให้เกิดการได้รับเงินสนับสนุนที่รวดเร็วขึ้น และมีเวลาในการบริหารจัดการโครงการอย่างเต็มที่ ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
นอกจากนี้ นายสุรศักดิ์ เกิดจันทึก รองผู้ว่าการฯ ฝ่ายส่งเสริมกีฬา ได้นำเสนอแนวทางการจัดทำโครงการในส่วนภูมิภาคเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ พร้อมทั้งสรุปปัญหาและอุปสรรคในปีที่ผ่านมา และชี้แนวทางปรับปรุงสำหรับปี 2569 เพื่อให้การทำงานในปีต่อไปราบรื่น และรวดเร็วยิ่งขึ้น สอดรับกับแนวคิดที่ต้องการให้ทุกภาคส่วนสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันเวลา
เสริมสร้างความเข้าใจและเชื่อมั่นในการบริหารงบประมาณ โดยนายสมพงค์ พิมพ์มาศ กรรมการสมาพันธ์นายกจังหวัด ย้ำถึงหัวใจสำคัญของการสัมมนา คือการเร่งรัดการเบิกจ่ายในทุกขั้นตอน เสริมสร้างความเข้าใจในบทบาทของกองทุนฯ และเน้นย้ำการวางแผนขอทุนการศึกษาให้กับนักกีฬา ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสวัสดิการที่กองทุนฯ ให้การสนับสนุน
ขณะที่ นายมนตรี หาญใจ นายกสมาคมกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ และคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ ได้กล่าวเสริมเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในกระบวนการจัดการงบประมาณทั้งในส่วนกลาง และภูมิภาค ซึ่งจะช่วยให้ทุกภาคส่วนเข้าใจภาพรวมและต่อยอดไปสู่การเตรียมโครงการและการบริหารงบประมาณได้อย่างรวดเร็ว
อีกทั้ง นายสุรศักดิ์ เกิดจันทึก, นายมนตรี หาญใจ, และ นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม ได้ร่วมกันพูดคุย และอภิปรายอย่างกว้างขวาง เพื่อให้ผู้เข้าร่วมอบรมได้รับประโยชน์สูงสุดจากการจัดการทำโครงการ เกิดความเข้าใจในแนวทางการทำงานของกองทุนฯ ในปี 2569 พร้อมทั้งแนะนำแนวทางการจัดการปัญหาที่จะเกิดขึ้น และการดำเนินงานต่างๆ ที่จะช่วยให้ได้รับเงินสนับสนุนได้เร็วขึ้น มีเวลาในการจัดการงานอย่างมีประสิทธิภาพ และก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนากีฬาไทย
นอกจากนี้ ดร.ทศพร เฟื่องรอด ที่ปรึกษาด้านสารสนเทศและเทคโนโลยีดิจิทัล กองทุนฯ ได้อธิบายวัตถุประสงค์ของการสัมมนา และได้แนะนำระบบคำขอใหม่ที่เน้นความ “ชัดเจน รวดเร็ว ตรวจสอบได้”
รวมไปถึงการจัด Workshop ฝึกปฏิบัติจริง โดยให้สมาคมกีฬา และกกท.จังหวัด ทดลองกรอกข้อมูลคำขอเข้าสู่ระบบ
โดยย้ำ 4 หัวใจสำคัญในการเขียนโครงการ ได้แก่:
• ความสอดคล้องกับนโยบายรัฐ และ Soft Power
• ความคุ้มค่า พร้อมเป้าหมายระยะสั้น-ยาว
• วัดผลได้ เห็นการเปลี่ยนแปลง
• ความต่อเนื่องของโครงการ
ในวันสุดท้ายก่อนการเดินทางกลับ มีการสรุปเนื้อหาการอบรม มอบเอกสารคำขอ รวมไปถึงการประกาศอันดับผู้เขียนคำของบประมาณโครงการที่ดีที่สุด 3 อันดับแรก ได้รับของรางวัลจากทางกองทุนฯ ได้แก่ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และเลย สำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดสุรินทร์ สำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดบุรีรัมย์ สำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดเลย บรรยากาศเป็นไปด้วยความสนุกสนาน เรียกเสียงปรบมือ สร้างรอยยิ้มก่อนจากกัน
การประชุมสัมมนาครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้ขอรับการสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ โดยไม่เพียงแต่ช่วยยกระดับการพัฒนากีฬาไทยในทุกมิติ แต่ยังสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลและ Soft Power พร้อมทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ผ่านการขับเคลื่อนโครงการต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปฏิรูปการทำงานด้วยดิจิทัล ที่จะเข้ามาช่วยให้กระบวนการทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เตรียมเดินหน้าจัดกิจกรรมต่อไปที่จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งจะเป็นการสัมมนาครั้งสุดท้าย ประจำปี 2568 ผู้เข้าร่วม 13 จังหวัด (กกท. ภาค 1) สำนักงาน กกท. จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อเสริมสร้างศักยภาพให้แก่บุคลากรด้านกีฬาอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศ
ติดตามข่าวสารกองทุนได้ทุกช่องทาง
Facebook : https://www.facebook.com/nsdf.or.th
Website : https://nsdf.or.th/
YouTube : https://www.youtube.com/@nsdf2483
Instagram : https://www.instagram.com/nsdfthailand/
X(Twitter) : https://x.com/NSDF_Thailand
TikTok : https://www.tiktok.com/@nsdfthailand